ข้อต่อสู้ในการสู้คดีหมิ่นประมาท - ทนายนิธิพล

57 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ข้อต่อสู้ในการสู้คดีหมิ่นประมาท - ทนายนิธิพล

           ข้อต่อสู้ในการสู้คดีหมิ่นประมาท - ทนายนิธิพล

           ความผิดฐานหมิ่นประมาทในกฎหมาย: ความหมาย ข้อกฎหมาย และแนวทางป้องกัน ซึ่งข้อหาหมิ่นประมาท เป็นความผิดทางอาญาที่เกี่ยวข้องกับการใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้นั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง การกระทำเช่นนี้อาจเกิดขึ้นได้ในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการพูด การเขียน หรือการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อออนไลน์ ซึ่งในยุคปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศและโซเชียลมีเดียมีบทบาทสำคัญในการกระจายข้อมูล การหมิ่นประมาทจึงกลายเป็นประเด็นที่พบเห็นได้บ่อยครั้ง และอาจส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของบุคคลอย่างกว้างขวาง

           องค์ประกอบของความผิดฐานหมิ่นประมาท

           การใส่ความผู้อื่น: การกล่าวหรือสื่อสารข้อมูลที่เป็นเท็จหรือไม่เหมาะสมเกี่ยวกับบุคคลอื่น ซึ่งอาจเกิดขึ้นในลักษณะของการกล่าวหาโดยไม่มีหลักฐาน การเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง หรือการแสดงความคิดเห็นในเชิงลบโดยไร้เหตุผลที่สมควร
           ต่อบุคคลที่สาม: การสื่อสารต้องมีบุคคลที่สามเป็นผู้รับรู้ การกล่าวหาในที่ลับที่มีเพียงผู้กล่าวและผู้ถูกกล่าวหาไม่ถือเป็นการหมิ่นประมาท อย่างไรก็ตาม หากมีบุคคลที่สามรับฟังหรือได้รับข้อมูลดังกล่าว อาจเข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นประมาท
           ผลกระทบต่อชื่อเสียง: การใส่ความต้องมีลักษณะที่น่าจะทำให้ผู้ถูกกล่าวหาเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ผลกระทบนี้อาจทำให้บุคคลสูญเสียความน่าเชื่อถือในสายตาผู้อื่น

           บทลงโทษตามกฎหมาย
           ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326: ผู้ใดใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
           ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328: หากการหมิ่นประมาทกระทำโดยการโฆษณาด้วยเอกสาร ภาพวาด ภาพยนตร์ หรือการป่าวประกาศด้วยวิธีอื่น ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท การโฆษณาดังกล่าวอาจรวมถึงการเผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดียหรือเว็บไซต์ต่าง ๆ ซึ่งสามารถเข้าถึงประชาชนเป็นจำนวนมาก

            ข้อยกเว้นความผิดฐานหมิ่นประมาท
            กฎหมายได้กำหนดข้อยกเว้นสำหรับการแสดงความคิดเห็นหรือข้อความที่กระทำโดยสุจริตในกรณีต่อไปนี้:
             เพื่อความชอบธรรม: การแสดงความคิดเห็นเพื่อป้องกันตนหรือส่วนได้เสียเกี่ยวกับตนตามคลองธรรม เป็นการใช้สิทธิในการป้องกันตนเองจากข้อกล่าวหาหรือการกระทำที่ไม่เป็นธรรม
             การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน: เจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ในการดำเนินการตามกฎหมายสามารถแสดงความคิดเห็นได้หากเป็นการปฏิบัติงานตามหน้าที่และสุจริตใจ
             การติชมด้วยความเป็นธรรม: การติชมบุคคลหรือสิ่งใดที่เป็นเรื่องที่สาธารณชนให้ความสนใจ เช่น การวิพากษ์วิจารณ์นักการเมืองหรือบุคคลสาธารณะ สามารถกระทำได้หากเป็นไปโดยความสุจริตและไม่มีเจตนาที่จะหมิ่นประมาท
             การแจ้งข่าวด้วยความเป็นธรรม: การแจ้งข่าวเกี่ยวกับการดำเนินการในศาล หรือข่าวที่มีผลต่อสาธารณะสามารถกระทำได้หากมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและไม่มีการบิดเบือนข้อมูล

              และยังมีกรณีที่หากผู้ถูกหาว่ากระทำความผิดในข้อหาหมิ่นประมาท สามารถพิสูจน์ได้ว่าข้อที่หาว่าเป็นหมิ่นประมาทนั้นเป็นความจริง ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ แต่ห้ามไม่ให้พิสูจน์ ถ้าข้อที่หาว่าเป็นหมิ่นประมาทนั้นเป็นการใส่ความในเรื่องส่วนตัว และการพิสูจน์จะไม่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 330 รวมถึงยังมีกรณีอื่นๆที่สามารถนำมาเป็นข้อต่อสู้ในคดีได้ขึ้นอยู่กับแต่ละข้อเท็จจริงซึ่งจะต้องปรับใช้ในแต่ละกรณี

            แนวทางป้องกันการกระทำผิดฐานหมิ่นประมาท
            ตรวจสอบข้อมูลก่อนเผยแพร่: ก่อนที่จะเผยแพร่หรือแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบุคคลอื่น ควรตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แน่ชัดเพื่อหลีกเลี่ยงการกล่าวหาที่ผิดพลาด
            หลีกเลี่ยงการใช้ภาษาที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด: การใช้ถ้อยคำที่ชัดเจน สุภาพ และไม่โจมตีผู้อื่นอย่างไม่เป็นธรรมจะช่วยลดความเสี่ยงในการถูกกล่าวหาว่าหมิ่นประมาท
            แสดงความคิดเห็นด้วยความสุจริต: การแสดงความคิดเห็นโดยมีวัตถุประสงค์ที่ดีและปราศจากอคติจะช่วยให้เกิดความน่าเชื่อถือและลดความเสี่ยงในการกระทำผิด
            ระมัดระวังในการใช้สื่อออนไลน์: การโพสต์หรือแชร์ข้อมูลในสื่อสังคมออนไลน์ควรระมัดระวัง เนื่องจากการเผยแพร่ข้อมูลต่อสาธารณะสามารถกระจายได้อย่างรวดเร็วและกว้างขวาง
           สรุป ความผิดฐานหมิ่นประมาทเป็นประเด็นที่มีความสำคัญและอาจส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงและเกียรติยศของบุคคลอย่างร้ายแรง การทำความเข้าใจข้อกฎหมายและการปฏิบัติตนอย่างระมัดระวังในการสื่อสารจะช่วยป้องกันการกระทำผิดและเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในสังคม การให้ความสำคัญกับความถูกต้องและการแสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์จะเป็นประโยชน์ต่อทั้งผู้แสดงความคิดเห็นและสังคมโดยรวม

             หากคุณกำลังประสบปัญหาที่จะดำเนินคดีหรือฟ้องคนที่หมิ่นประมาทหรือคุณกำลังถูกฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาท สามารถปรึกษากฎหมายในเบื้องต้นกับสำนักงานทนายความหรือสำนักงานกฎหมายของเราได้ เราพร้อมและยินดีจะช่วยเหลือคุณอย่างเต็มที่




             ทนายนิธิพล ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย

สำนักงานกฎหมาย สำนักงานทนายความ

แฟนเพจ FB : ทนายนิธิพล ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย

โทร : 095-453-4145 เวลาติดต่อจันทร์-เสาร์ 10.00น – 18.00น

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้