การเพิกถอนการให้โดยเสน่หาในกฎหมาย - โดยทนายนิธิพล

66 จำนวนผู้เข้าชม  | 

การเพิกถอนการให้โดยเสน่หาในกฎหมาย - โดยทนายนิธิพล

             การเพิกถอนการให้โดยเสน่หาในกฎหมาย
             การให้โดยเสน่หา หมายถึง การที่บุคคลหนึ่ง (ผู้ให้) โอนทรัพย์สินของตนให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่ง (ผู้รับ) โดยไม่มีค่าตอบแทน และผู้รับยอมรับทรัพย์สินนั้น การให้จะสมบูรณ์เมื่อมีการส่งมอบทรัพย์สินหรือจดทะเบียนตามที่กฎหมายกำหนด โดยการให้ในลักษณะนี้อาจเกิดขึ้นได้ในหลายสถานการณ์ เช่น การให้ทรัพย์สินระหว่างสมาชิกในครอบครัว การบริจาค หรือการให้รางวัลตามความพึงพอใจของผู้ให้ ซึ่งการให้โดยเสน่หานั้น แม้จะดูเหมือนเป็นการกระทำที่เรียบง่าย แต่ก็มีข้อกำหนดทางกฎหมายที่ควรทราบเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจตามมาในอนาคต

              เหตุผลในการเพิกถอนการให้โดยเสน่หา
              แม้ว่าการให้โดยเสน่หาจะเป็นการโอนกรรมสิทธิ์ที่สมบูรณ์ แต่กฎหมายไทยยังเปิดโอกาสให้ผู้ให้สามารถเพิกถอนการให้ได้ หากผู้รับประพฤติเนรคุณต่อผู้ให้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 531 ซึ่งกำหนดเหตุในการเพิกถอนการให้ไว้ดังนี้:
              ผู้รับประทุษร้ายต่อผู้ให้เป็นความผิดอาญาอย่างร้ายแรง: เช่น การทำร้ายร่างกายหรือกระทำการที่เป็นอันตรายต่อชีวิตของผู้ให้ ไม่ว่าจะเป็นการลงมือกระทำโดยตรงหรือการกระทำผ่านบุคคลอื่น
              ผู้รับทำให้ผู้ให้เสียชื่อเสียงหรือหมิ่นประมาทผู้ให้อย่างร้ายแรง: เช่น การเผยแพร่ข้อมูลเท็จที่ทำให้ผู้ให้ได้รับความเสียหายทางชื่อเสียงในสังคม หรือการกล่าวหาผู้ให้ต่อบุคคลอื่นโดยไม่มีหลักฐานที่แท้จริง
              ผู้รับไม่ยอมให้สิ่งของจำเป็นในการเลี้ยงชีพแก่ผู้ให้ในเวลาที่ผู้ให้ยากไร้ ทั้งที่ผู้รับสามารถให้ได้: เช่น ผู้ให้ที่เคยโอนทรัพย์สินให้ตกอยู่ในสภาวะยากจนและขอความช่วยเหลือจากผู้รับ แต่ผู้รับปฏิเสธโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ซึ่งการปฏิเสธนี้ถือเป็นการกระทำที่ไม่สมควรและขัดต่อจริยธรรมสังคม
              ข้อยกเว้นในการเพิกถอนการให้
              แม้ว่าจะมีเหตุผลในการเพิกถอนการให้โดยเสน่หา แต่กฎหมายก็กำหนดข้อยกเว้นบางประการที่ไม่สามารถเพิกถอนได้ แม้ผู้รับจะประพฤติเนรคุณก็ตาม ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 535 ซึ่งระบุว่า การให้ในกรณีต่อไปนี้ไม่สามารถเพิกถอนได้:

              การให้เป็นบำเหน็จสินจ้างโดยแท้: เช่น การให้รางวัลหรือโบนัสที่มอบให้เป็นการตอบแทนการทำงาน หรือการให้เพื่อเป็นการตอบแทนความดีความชอบในการทำงานเป็นเวลานาน
              การให้สิ่งที่มีค่าภาระติดพัน: เช่น การให้ทรัพย์สินที่มีภาระผูกพันหรือหนี้สินติดอยู่ ซึ่งการให้ทรัพย์สินที่มีข้อผูกมัดนั้นอาจส่งผลกระทบต่อผู้รับในการจัดการทรัพย์สินต่อไป
              การให้โดยหน้าที่ธรรมจรรยา: เช่น การให้ที่เกิดจากความสัมพันธ์ทางศีลธรรมและจริยธรรม เช่น พ่อแม่ให้ทรัพย์สินแก่บุตร หรือการให้แก่บุคคลในครอบครัวที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างแท้จริง
              การให้ในการสมรส: เช่น ของขวัญหรือทรัพย์สินที่มอบให้ในพิธีสมรส ซึ่งถือเป็นการให้ที่ไม่สามารถเพิกถอนได้ เนื่องจากมีลักษณะของความสัมพันธ์ทางกฎหมายที่เข้มข้น
             

              ระยะเวลาในการเพิกถอนการให้
              ผู้ให้ต้องดำเนินการเพิกถอนการให้ภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ตามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 533 ซึ่งระบุว่า:

               ภายใน 6 เดือน นับแต่ทราบเหตุแห่งการประพฤติเนรคุณ เพื่อให้การดำเนินคดีเกิดขึ้นในเวลาที่สมเหตุสมผล
               ไม่เกิน 10 ปี ภายหลังเหตุการณ์ประพฤติเนรคุณนั้น เพื่อป้องกันการฟ้องร้องที่ยาวนานเกินไปซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อกระบวนการยุติธรรม หากพ้นระยะเวลาดังกล่าว ผู้ให้จะไม่สามารถเพิกถอนการให้ได้

              ขั้นตอนการเพิกถอนการให้
              หากผู้ให้ประสงค์จะเพิกถอนการให้ ควรดำเนินการดังนี้:
              ปรึกษาทนายความ: เพื่อประเมินกรณีและเตรียมเอกสารที่จำเป็น รวมถึงการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการเพิกถอน
              ยื่นฟ้องต่อศาล: โดยยื่นคำร้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจ เพื่อขอเพิกถอนการให้ ศาลจะเป็นผู้พิจารณาคดีและตัดสินตามหลักฐานและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
              เตรียมพยานหลักฐาน: เพื่อพิสูจน์ว่าผู้รับได้ประพฤติเนรคุณตามเหตุที่กฎหมายกำหนด ซึ่งอาจรวมถึงพยานบุคคล หลักฐานทางเอกสาร หรือข้อมูลทางการแพทย์ในกรณีที่มีการทำร้ายร่างกาย
               สรุป การให้โดยเสน่หาเป็นการโอนทรัพย์สินที่ไม่มีค่าตอบแทน แต่หากผู้รับประพฤติเนรคุณ ผู้ให้มีสิทธิ์เพิกถอนการให้ได้ภายใต้เงื่อนไขและระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ดังนั้น ควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนการให้ และหากเกิดปัญหา ควรปรึกษาทนายความเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป การให้โดยเสน่หาไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของน้ำใจ แต่ยังเป็นกระบวนการที่ต้องมีการคำนึงถึงข้อกฎหมายอย่างถี่ถ้วน



             ทนายนิธิพล ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย

สำนักงานกฎหมาย สำนักงานทนายความ

แฟนเพจ FB : ทนายนิธิพล ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย

โทร : 095-453-4145 เวลาติดต่อจันทร์-เสาร์ 10.00น – 18.00น

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้