แอบใช้บัตรเครดิตหรือบัตรเอทีเอ็มATMของคนอื่น มีความผิดอย่างไร

Last updated: 19 พ.ย. 2567  |  5 จำนวนผู้เข้าชม  | 

แอบใช้บัตรเครดิตหรือบัตรเอทีเอ็มATMของคนอื่น มีความผิดอย่างไร

          แอบใช้บัตรเครดิตหรือบัตรเอทีเอ็มของคนอื่น มีความผิดอย่างไร

          การใช้บัตรเครดิตหรือบัตรเอทีเอ็ม ATM ของผู้อื่นโดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นความผิดที่มีผลกระทบทั้งด้านกฎหมายและศีลธรรม การกระทำดังกล่าวไม่เพียงแต่เป็นการล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคล แต่ยังถือเป็นความผิดทางอาญาตามกฎหมาย บทความนี้จะอธิบายถึงลักษณะของความผิด ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง พร้อมคำแนะนำจากทนายความมืออาชีพเพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว

          ลักษณะของความผิด
          การใช้บัตรเครดิตหรือบัตร ATM ของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตแบ่งออกเป็นสองรูปแบบหลัก ได้แก่:
          การขโมยข้อมูลบัตร ผู้กระทำความผิดนำข้อมูลบัตร เช่น หมายเลขบัตรหรือรหัสผ่าน ไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต เช่นการจดจำหรือถ่ายภาพหมายเลขบัตรเครดิตหรือบัตรเอทีเอ็ม รวมถึงเดือนและปีที่หมดอายุของบัตรและหมายเลข CVV ( Card Verification Value )

           การใช้บัตรที่ถูกขโมย ผู้กระทำความผิดได้ขโมยนำบัตรเครดิตหรือบัตรเอทีเอ็มจริงไปใช้โดยไม่ได้รับการยินยอมจากเจ้าของบัตร โดยนำไปชำระค่าสินค้าหรือบริการ รวมถึงมีการนำข้อมูลบัตรไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตด้วย

           กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
           ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 269/5 การใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของบัตร ถือว่ามีความผิดฐานใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์โดยมิชอบ
           บทลงโทษ: จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
           ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 269/6 การใช้หรือเปิดเผยข้อมูลที่ได้จากบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยไม่ได้รับความยินยอม ถือเป็นความผิดในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
           บทลงโทษ: จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
           ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 269/7 เป็นการกระทำเกี่ยวกับบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิใช้ เพื่อใช้ประโยชน์ในการชำระค่าสินค้า ค่าบริการ หรือหนี้อื่นแทนการชำระด้วยเงินสด หรือใช้เบิกถอนเงินสด ถือเป็นความผิด
            บทลงโทษ: จำคุกไม่เกิน 7 ปี 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 150,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
            ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 กรณีที่เจ้าของบัตรได้รับความเสียหายสามารถเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งจากผู้กระทำความผิดได้

             ผลกระทบของการกระทำความผิด
             ผลกระทบต่อผู้เสียหาย สูญเสียทรัพย์สินหรือเงินในบัญชี ต้องเสียเวลาในการจัดการกับปัญหาทางกฎหมายและธนาคาร
             ผลกระทบต่อผู้กระทำความผิด
             ถูกดำเนินคดีทั้งทางอาญาและทางแพ่ง เสียชื่อเสียงและส่งผลต่ออนาคตในระยะยาว

             คำแนะนำจากทนายความ
             สำหรับเจ้าของบัตรหลีกเลี่ยงการบันทึกรหัสผ่านไว้ในที่ที่เข้าถึงง่าย แจ้งธนาคารทันทีหากพบการใช้บัตรที่ผิดปกติ และรีบไปดำเนินการแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนในทันทีที่ทราบถึงการใช้บัตรเครดิตหรือบัตรเอทีเอ็มโดยมิชอบ
              สรุป การใช้บัตรเครดิตหรือบัตร ATM ของผู้อื่นโดยไม่ได้รับความยินยอมถือเป็นความผิดที่มีผลกระทบร้ายแรง การป้องกันและการรับมือที่เหมาะสมสามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาได้ หากคุณต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติม สามารถติดต่อสำนักงานกฎหมายหรือทนายความผู้เชี่ยวชาญเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาอย่างมืออาชีพ



             ทนายนิธิพล ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย

สำนักงานกฎหมาย สำนักงานทนายความ

แฟนเพจ FB : ทนายนิธิพล ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย

โทร : 095-453-4145 เวลาติดต่อจันทร์-เสาร์ 10.00น – 18.00น

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้