สินค้าที่ส่งมาได้รับความเสียหายใครต้องรับผิดชอบ ระหว่างขนส่งกับผู้ขาย

            สินค้าที่ส่งมาได้รับความเสียหายใครต้องรับผิดชอบ ระหว่างขนส่งกับผู้ขาย

         การส่งซื้อสินค้าแล้วให้ผู้ขายทำการจัดส่งสินค้านั้น ก็จำเป็นที่จะต้องมีการแพ็คสินค้า และนำส่งให้แก่บริษัทขนส่ง อาทิเช่น บริษัทไปรษณีย์ไทย (Thai Post) บริษัทเคอรี่เอ็กเพลส (Kerry express)  บริษัทแฟรช (Flash) เป็นต้น และเมื่อสินค้าถูกจัดส่งมาให้แก่คุณเรียบร้อยแล้ว ปรากฎว่าสินค้าได้รับความเสียหายเกิดขึ้น คำถามนี้ก็จะเกิดขึ้นทันทีว่า ใครจะต้องรับผิดชอบ และจะได้รับการชดเชยหรือไม่

         ก่อนจะกล่าวถึงว่าใครจะต้องรับผิดชอบนั้น ก็ต้องทราบหลักเกณฑ์ในการรับผิดชอบก่อนซึ่งก็คือ หากความเสียหายเกิดขึ้นจากความผิดของผู้ขาย เช่น แพ็คสินค้าไม่ดี แพ็คสินค้าไม่เหมาะกับสินค้า เป็นต้น ในกรณีแบบนี้ผู้ขายจะต้องรับผิดชอบในความเสียหายดังกล่าว แต่หากผู้ขายแพ็คสินค้ามาเป็นอย่างดีแล้ว ปรากฎว่าบริษัทขนส่งทำให้สินค้าเกิดขึ้นเสียหายหรือสูญหาย เช่น โยนสินค้า นำสินค้าที่มีน้ำหนักมากมาทับ เป็นต้น กรณีนี้แบบนี้บริษัทขนส่งก็ต้องรับผิดชอบ

            การสังเกตุว่าใครจะต้องรับผิดชอบในเบื้องต้นก็คือ ดูกล่องพัสดุว่ามีสภาพอย่างไรตอนขนส่ง หากสภาพกล่องพัสดุอยู่ในสภาพดี ก็ให้สันนิษฐานในเบื้องต้นได้เลยว่าเกิดความเสียหายมาจากผู้ขาย แต่หากกล่องพัสดุที่นำมาส่งนั้น สภาพกล่องดูไม่ได้ เช่น บุบ ยับ ถูกบี้ หรือเปียกน้ำ (ไม่ใช่น้ำซึมออกมาจากด้านใน) กรณีแบบนี้ก็ให้สันนิษฐานในเบื้องต้นได้เลยว่าเกิดความเสียหายมาจากบริษัทขนส่ง ซึ่งสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมากก็คือ ช่วงเวลาการรับสินค้าและการถ่ายวีดีโอไว้เป็นหลักฐานไม่ว่าจะต้องรับสินค้าหรือตอนแกะสินค้า

            หากกล่องพัสดุที่นำมาส่งนั้นสภาพไม่ดี ก็ควรจะปฎิเสธการรับสินค้า หรือปฎิเสธการรับสินค้าแล้วไปขอเปิดกล่องที่ไปรษณีย์พร้อมกับพนักงานไปรษณีย์ (รูปแบบเดียวกับขนส่งอื่น) และถ่ายวีดีโอไว้เป็นหลักฐาน แบบนี้จะดีที่สุด หากสินค้าได้รับความเสียหายก็แจ้งผู้ขายให้ทราบด้วย (โดยหากเป็นผู้ขายที่ดีก็ควรจะส่งสินค้าใหม่หรือชดเชยค่าสินค้าให้แก่ผู้ซื้อไปก่อน แล้วไปเรียกร้องเงินชดเชยจากบริษัทขนส่งทีหลัง) และทำเรื่องขอเรียกเงินชดเชยกรณีค่าสินค้าเสียหายและสูญหาย

            แต่หากเป็นกรณีที่ไม่ได้รับสินค้าเอง มีคนอื่นรับแทน เช่นคนในบ้าน แม่บ้าน พนักงานรักษาความปลอดภัย ก็ควรกำชับทุกครั้งว่าให้ถ่ายวีดีโอตอนรับสินค้าด้วย เพราะไม่เช่นนั้นบริษัทขนส่งจะอ้างได้ว่าสินค้านั้นเป็นความผิดจากผู้ขาย เพราะผู้ขายแพ็คสินค้าไม่ดี แต่หากมิได้ทำตามขั้นตอนนี้เลย ก็เป็นได้ยากที่จะเรียกร้องจากบริษัทขนส่งได้ ส่วนเป็นกรณีที่ผู้ขายต้องรับผิดชอบก็ติดต่อไปหาผู้ขายและแจ้งถึงความเสียหายดังกล่าว โดยหน้าที่ของผู้ขายคือส่งสินค้าใหม่ให้หรือไม่ก็คืนเงินค่าเสียหาย แล้วแต่จะตกลงกันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย

             หากสรุปแล้วว่าบริษัทขนส่งจะต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายหรือสูญหาย ก็จะมีขอบเขตการรับผิดชอบด้วยเช่นกันขึ้นอยู่กับการกำหนดของแต่ละบริษัทขนส่ง ซึ่งในส่วนนี้ส่งศึกษาเพิ่มเติมในเว็ปไซต์ของบริษัทขนส่ง แต่หากสินค้ามีมูลค่าที่สูงก็ควรที่จะทำประกันการเสียหายและสูญหายด้วย เมื่อสินค้าเสียหายหรือสูญหายก็สามารถแจ้งเครมประกันได้ทันที

ทนายนิธิพล ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย

แฟนเพจ FB : ทนายนิธิพล ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย

โทร : 095-453-4145 เวลาติดต่อจันทร์-เสาร์ 10.00น – 18.00น