คนผ่อนบ้านต้องรู้วิธิทำให้ลดดอกเบี้ยเป็นล้านและผ่อนเร็วขึ้นหลายปี - ทนายนิธิพล

                                    คนผ่อนบ้านต้องรู้วิธิทำให้ลดดอกเบี้ยเป็นล้านและผ่อนเร็วขึ้นหลายปี

                       หนี้บ้านเป็นหนี้ถือเป็นหนี้ก้อนใหญ่ก้อนนึงเลยเพราะเป็นหนี้ที่เยอะและมีระยะการผ่อนที่นานหลายสิบปีกว่าจะหมด คือต้องบอกเลยว่าหนี้บ้านพวกหนี้ยิ่งผ่อนนานยิ่งต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงบางทีก็ผ่อนบ้านจนท้อผ่อนไปแล้วมีความรู้สึกหนี้ยังไม่ลดลงเลย เพราะการผ่อนบ้านยิ่งผ่อนนานดอกเบี้ยที่จะต้องจ่ายตลอดอายุสัญญาก็จะยิ่งมากขึ้น ซึ่งสำหรับหนี้บ้านธนาคารจะคิดอัตราดอกเบี้ยแบบอัตราดอกเบี้ยลดต้นลดดอก คือการคิดดอกเบี้ยจากเงินต้นที่คงค้างอยู่ ตัวอย่าง คือ กู้เงิน 2,000,000 บาท ดอกเบี้ย 7% จะคิดจากเงิน 2,000,000 บาท ทั้งก้อนนี้ ถ้าหาสมมุติเราผ่อนไปสักพักเหลือ 1,000,000 บาท ดอกเบี้ย 7% จะคิดจากเงิน 1,000,000 แทน ดังนั้นยิ่งผ่อนนานต้นเงินก็หมดช้าดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายทุกเดือนพอเอามาทบกันเรื่อยๆรวมกันแล้วมันเป็นเงินจำนวนมาก
             ยกตัวอย่างเช่น บ้านราคา 3,000,000 บาท ดอกเบี้ย 7%  ผ่อน 30 ปี ซึ่งหาคำนวณออกมาแล้วจะได้ว่าเราต้องผ่อนเดือนละ 19,959 บาท หาเราผ่อนบ้าน 30 ปี เท่ากับเราต้องจ่ายค่าบ้านมากถึง 7,184,265 บาท ทั้งที่ค่าบ้านเรากู้มาแค่ 3,000,000 บาท ซึ่งมีเงินส่วนต่างมากถึง 4,184,265 บาท เงินส่วนต่างที่ว่ามานี้ก็คือจำนวนดอกเบี้ยที่เราจ่ายให้กับธนาคารซึ่งเห็นได้เลยว่าเป็นจำนวนดอกเบี้ยที่เยอะมาก

             ดังนั้นแล้วเราจะทำอย่างไรให้ไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยจำนวนมากขนาดนี้แถมหนี้บ้านก็หมดไวด้วย

             #วิธีแรก คือการโปะเพิ่มหรือชำระเพิ่มจากค่างวดเดิม คือสมมุติเราผ่อนค่าบ้านเดือนละ 10,000 บาท เราก็โปะเพิ่มไปสัก 10% ของเงินงวด คือ 1,000 บาท เป็นเท่ากับว่าเดือนนั้นเราผ่อนบ้านไป 11,000 บาท เงิน 1,000 บาทที่เราผ่อนไปนี้ก็จะไปตัดเงินต้นที่เรากู้มา คิดตามว่าดอกเบี้ยบ้านคิดอัตราลดต้นลดดอก เมื่อต้นลดลงราคาดอกเบี้ยก็ลดลง ยิ่งเราโปะมากเท่าไหร่หนี้เราก็ยิ่งหมดเร็วขึ้นเท่านั้น

             ตัวอย่าง เช่น ราคาบ้าน 3,000,000 บาท ดอกเบี้ย 7% ผ่อน 30 ปี โปะเพิ่มเดือนละ 3,000 บาท เท่ากับเราต้องผ่อน 19,959+3,000 = 22,959 บาท หาเราผ่อนครบอายุสัญญาเท่ากับว่าเราจ่ายให้กับธนาคาร 5,670,051 บาท ซึ่งเราเห็นได้เลยว่าในตอนแรกหากเราผ่อนไปจำนวนเท่าเดิมตลอด 30 ปี เราต้องจ่ายมากถึง 7,184,265 บาท ซึ่งวิธีนี้เราจะสามารถประหยัดค่าดอกเบี้ยได้มากถึง 1,514,214 บาท นอกจากนั้นยังทำให้เราจบหนี้ได้ไวขึ้นอีก จากเดิมคือเราผ่อน 30ปี 360เดือน จะทำให้เราสามารถจบหนี้ได้เร็วขึ้น 113 เดือน

             #วิธีที่สอง คือการรีไฟแนซ์ทุกๆ 3 ปี คือการเปลี่ยนสินเชื่อจากธนาคารเดิมไปยังสินเชื่อก้อนใหม่กับธนาคารใหม่หรือธนาคารเดิมก็ได้ ซึ่งตามปกติแล้วดอกเบี้ยธนาคารในช่วง 3 ปี แรกจะได้ดอกเบี้ยราคาต่ำพอปีที่ 4 ราคาดอกเบี้ยก็จะเพิ่มขึ้น ซึ่งการรีไฟแนซ์เป็นการปรับโครงสร้างหนี้เป็นการทำให้ดอกเบี้ยมันถูกอีกใน 3 ปีแรกโดยการย้ายธนาคาร ซึ่งการรีไฟแนซ์จะมีขั้นตอนกระบวนการที่ค่อนข้างยุ่งวุ่นวายตรงที่ว่า การรีไฟแนนซ์เป็นเหมือนการไปขอสินเชื่อใหม่ จะมีการตรวจเครดิต  การขอเอกสาร และมีค่าธรรมเนียมด้วย แนะนำว่าคนที่ควรรีไฟแนซ์ต้องมียอดหนี้ค่อนข้างเยอะประมาณนึงด้วยถึงจะคุ้มกับการรีไฟแนนซ์ ถ้าหากเหลือยอดหนี้ไม่มากแล้วมารีไฟแนนซ์อาจจะไม่คุ้มเพราะต้องมีการจ่ายค่าธรรมเนียมด้วย อีกทั้งเงินต้นก็เหลือน้อยแล้วดอกเบี้ยมันคิดจากเงินต้นถ้าเงินต้นเหลือน้อยแล้วดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายมันก็เหลือน้อยแล้วด้วย

            #วิธีที่สาม คือการรีเทนชั่นเป็นการขอลดอัตราดอกเบี้ยกับธนาคารในปีที่ 4 ที่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเราก็สามารถติดต่อธนาคารขอลดอัตราดอกเบี้ยได้ แต่การขอรีเทนชั่นนี้ธนาคารไม่ได้ให้กับทุกคน การที่ธนาคารจะให้เรารีเทนชั่นได้เราต้องเป็นลูกค้าชั้นดีกับธนาคาร คือลูกค้าที่ผ่อนดี ส่งเงินค่างวดตรงเวลาไม่ผิดนัดชำระ ดังนั้นแล้วพอเราผ่อนครบ 3 ปี แนะนำว่าให้ไปรีเทนชั่น หากเราไม่อยากรีไฟแนนซ์ หรือเป็นบุคคลที่ไม่สามารถขอรีไฟแนนซ์ เช่นบุคคลที่ไม่ได้ทำงานประจำ เพราะเนื่องจากบุคคลที่ไม่ได้มีรายได้ประจำไปขอรีไฟแนนซ์อาจเป็นการยากที่ธนาคารจะให้รีไฟแนนซ์ ดังนั้นแล้วการรีเทนชั่นจึงเหมาะกับบุคคลที่ประกอบอาชีพอิสระไม่ได้มีรายได้ประจำ เพราะจะไม่ยุ่งยากในกระบวนการ และไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมอีกด้วย สรุปว่าทุกๆ 3 ปีเราควรรีเทนชั่นไม่ก็รีไฟแนนซ์เพื่อดอกเบี้ยที่ถูกลง

 

 

ทนายนิธิพล สำนักงานกฎหมายนิธิลอว์แอนด์วิน
รับว่าความทั่วราชอาณาจักร ปรึกษากฎหมายฟรี
ติดต่อ ทนายนิธิพล โทร 095-453-4145