Last updated: 24 ต.ค. 2567 | 404 จำนวนผู้เข้าชม |
ขั้นตอนปฏิบัติเมื่อถูกฉ้อโกงในรูปแบบต่างๆทางออนไลน์
ไม่ว่าจะเป็นการถูกโกงทางเฟซบุ๊ก ( Facebook ) ถูกโกงทางไลน์ ( Line ) ถูกโกงทางอินสตราแกรม ( Instagram )
1.1 การหลอกลวงในการขายสินค้าเป็นกลยุทธ์ที่บางครั้งอาจใช้เจตนาทุจริตเพื่อรับเงินจากผู้บริโภคโดยไม่มีสินค้าจริงหรือสินค้าที่มีคุณภาพตามที่โฆษณา โดยมักจะนำภาพสินค้าของคนอื่นมาใช้ในโพสต์โฆษณาเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคว่าสินค้ามีคุณภาพ แต่ในทางปฏิบัติอาจไม่มีสินค้าจริง ทำให้ผู้บริโภคเสียเวลาและเงิน
1.2 การหลอกลวงโดยขายสินค้าที่โฆษณาว่าเป็นของแท้ แต่จริงๆ ไม่ใช่หรือเป็นสินค้าเสียหาย อาจทำให้ผู้บริโภคได้รับสินค้าที่ไม่ตรงกับความคาดหวังหรือไม่ได้รับสินค้าเลย แม้ว่าจะมีการชำระเงินไปแล้ว ซึ่งเป็นหนึ่งในกลโกงของมิจฉาชีพ
1.3 การหลอกลวงโดยเสนอการกู้ยืมเงินในอัตราดอกเบี้ยต่ำ โดยให้ผู้เสียหายโอนเงินค่าธรรมเนียมหรือดอกเบี้ยงวดแรก หรือค่ามัดจำต่างๆ โดยการโฆษณาอาจล่อใจผู้เสียหายว่าเงินจะถูกส่งให้ต่อไป แต่ในทางปฏิบัติจริงๆ ไม่มีการให้ยืนยันหรือโอนเงินกลับมาให้ ซึ่งเป็นการถูกมิจฉาชีพหลอกเรียบร้อยแล้ว
1.4 การหลอกลวงโดยใช้วิธีการจีบผู้อื่นในโลกออนไลน์ โดยใช้รูปโปรไฟล์ของบุคคลที่มีเสน่ห์ เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค และใช้วิธีการนี้เพื่อสร้างความไว้วางใจและจะมีการโทรมาขอโอนเงินค่าธรรมเนียมหรือค่าจัดส่งพัสดุ โดยอ้างว่ามีเงินสดมากในพัสดุแต่จริงๆ ไม่มีการโอนเงินกลับมาให้ในทางปฏิบัติ
เมื่อถูกหลอกแล้วต้องทำอย่างไร
2.1 ลงบันทึกประจำวันรับแจ้งความดำเนินคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการบันทึกข้อมูลที่ได้รับจากผู้แจ้งความอย่างรอบคอบและเต็มที่ เพื่อให้มีบันทึกข้อมูลเป็นหลักฐานที่เป็นประโยชน์ในการดำเนินคดีต่อไป ข้อมูลที่จะถูกบันทึกอาจรวมถึงชื่อ-นามสกุลของผู้แจ้งความ ที่อยู่ และรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่ถูกแจ้ง
2.2 สอบปากคำผู้แจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสอบถามผู้แจ้งความเพื่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อให้มีข้อมูลเพียงพอที่จะทำให้คดีได้รับการพิจารณาต่อไป การสอบถามอาจครอบคลุมเรื่องของวันเวลาที่เกิดเหตุ, การกระทำของผู้ก่อการร้าย, และสิ่งที่ผู้แจ้งความมีความคิดเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์
2.3 ออกหมายเรียกเจ้าของบัญชี เมื่อมีข้อมูลเพียงพอเกี่ยวกับบัญชีผู้ก่อการร้ายที่ผู้แจ้งความได้โอนเงินไปให้ ตำรวจจะทำการออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้องเพื่อมาให้การอธิบาย การออกหมายนี้อาจถูกส่งผ่านทางจดหมายหรืออื่นๆ เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องตรวจสอบถึงสถานที่และเวลาที่กำหนด
2.4 ยื่นคำร้องขอต่อศาล หากผู้เกี่ยวข้องไม่ปรากฏตัวตามหมายเรียก หรือปฏิเสธการร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตำรวจจะทำการยื่นคำร้องขอต่อศาลเพื่อขอออกหมายจับ เพื่อให้มีการดำเนินคดีต่อไปในลักษณะที่เหมาะสม การยื่นคำร้องจะต้องมีเอกสารหลักฐานและข้อมูลที่เพียงพอเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อประกอบการพิจารณาของศาล
การเตรียมเอกสาร
3.1 ควรเตรียมบัตรประชาชนของผู้แจ้งหรือผู้เสียหายโดยให้ความสำคัญกับการบันทึกข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วน เช่น ชื่อเต็ม ที่อยู่ และหมายเลขบัตรประชาชน เพื่อให้เป็นหลักฐานที่เชื่อถือได้ในกรณีที่ต้องเรียกร้องสิทธิ์ต่อราชการเผยแพร่ความจริง
3.2 ควรเก็บรวบรวมหน้าประกาศหรือข้อความโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงออนไลน์ที่เกิดขึ้น เช่น สแกม, โพสต์โฆษณาปลอม, หรือข้อมูลที่อาจช่วยในการพิสูจน์ความผิด
3.3 ควรเก็บรวบรวมหลักฐานการโอนเงินทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการที่ผู้เสียหายโอนเงินให้กับผู้ที่ฉ้อโกง เช่น สลิปการโอนเงิน, สำเนาของการโอนเงินผ่านอินเทอร์เน็ตแบงค์กิ้ง หรือส่วนที่เกี่ยวข้องของบัญชีธนาคาร
3.4 ควรรวบรวมหลักฐานที่แสดงถึงการติดต่อระหว่างผู้แจ้งหรือผู้เสียหายกับผู้ที่ฉ้อโกง เช่น บันทึกแชท, ข้อความทาง SMS, หรืออีเมลล์ที่สื่อสารกัน
3.5 ควรรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ขายสินค้าหรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง โดยระบุชื่อ-นามสกุล, หมายเลขบัญชีธนาคาร, หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อ, และที่อยู่อื่นๆ ที่อาจเป็นประโยชน์ในการดำเนินคดี
3.6 ควรเก็บรวบรวมหลักฐานหรือข้อมูลเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับคดีอย่างครบถ้วน เพื่อเป็นการสนับสนุนและประกอบการพิจารณาของหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการดำเนินคดีให้มีความเชื่อถือได้สูงสุด
ทั้งนี้โปรดระวังมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นทนายนิธิพล แฟนเพจเฟซบุ๊กจริง ชื่อ ทนายนิธิพล ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย เท่านั้น มีผู้ติดตาม 1.3 แสน + เท่านั้น และมีเว็ปไซต์นี้เท่านั้น
ทนายนิธิพล ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย
แฟนเพจ FB : ทนายนิธิพล ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย
โทร : 095-453-4145 เวลาติดต่อจันทร์-เสาร์ 10.00น – 18.00น