1551 จำนวนผู้เข้าชม |
ลูกความปิดบังความจริงหรือบอกทนายไม่หมด มีผลเสียมากกว่าผลดี
ซึ่งมีหลายๆกรณีที่ลูกความมักจะไม่บอกความจริงกับทนายทั้งหมด เพราะกลัวว่าหากทนายทราบข้อเท็จจริงดังกล่าวจะไม่รับทำคดีหรือทนายอาจนำข้อเท็จจริงดังกล่าวนั้นไปบอกต่อ จึงเลือกที่จะปกปิดข้อเท็จจริงดังกล่าวนั้น
โดยเมื่อคดีใดก็ตามที่ลูกความบอกความจริงให้แก่ทนายไม่หมด ย่อมจะเกิดความเสียหายแก่คดีของลูกความเองทั้งสิ้น เมื่อทนายไม่ทราบข้อเท็จจริงที่ถูกปกปิด ก็ส่งผลให้ทนายวางรูปคดีที่ผิดพลาด นำเอาข้อเท็จจริงมาปรับกับข้อกฎหมายไม่ตรงกับความเป็นจริง และไม่สามารถจะเตรียมรับมือกับทนายฝ่ายตรงข้ามในวันสืบพยานได้ หากทนายฝ่ายตรงข้ามนำข้อเท็จจริงดังกล่าวขึ้นมากล่าวอ้างต่อศาล
ทนายความจึงจำเป็นที่จะต้องได้รู้ข้อเท็จจริงทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นผลเสียหรือผลดีกับคดีให้ได้มากที่สุด เพื่อจะมีเวลาวางแผน หาทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับลูกความในการต่อสู้คดี ให้ได้รับความเป็นธรรม หรือได้รับความเป็นธรรมมากที่สุด และการปกปิดข้อเท็จจริงจะส่งผลเสียแก่คดีเป็นอย่างมากแล้ว ยังมีความผิดฐานเบิกความเท็จ หากลูกความเลือกที่จะปกปิดข้อเท็จจริงก็ย่อมต้องเบิกความเท็จออกไป ซึ่งการเบิกความเท็จนั้นไม่ว่าจะเป็นดดีแพ่งหรือคดีอาญา ย่อมมีความผิดทางอาญา และมีโทษจำคุก ซึ่งความผิดและบทลงโทษเป็นไปตาม ประมวลกฎหมายอาญา ดังนี้
มาตรา 177 ผู้ใดเบิกความอันเป็นเท็จในการพิจารณาคดีต่อศาล ถ้าความเท็จนั้นเป็นข้อสำคัญในคดี ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าความผิดดังกล่าวในวรรคแรก ได้กระทำในการพิจารณาคดีอาญา ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี และปรับไม่เกิน หนึ่งหมื่นสี่พันบาท
ดังนั้นลูกความที่ตัดสินใจจะว่าจ้างทนายความ ไม่จำเป็นที่จะต้องปกปิดข้อเท็จจริง หากท่านคิดว่าเลือกทนายที่ถูกต้องแล้ว (มีความน่าเชื่อถือ มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่เคยมีประวัติเสื่อมเสีย) เพราะล้วนเป็นประโยชน์แก่ตัวท่านทั้งสิ้น
ทนายนิธิพล สำนักงานกฎหมายนิธิลอว์แอนด์วินด์
รับว่าความทั่วราชอาณาจักร ปรึกษากฎหมายฟรี
ติดต่อ ทนายนิธิพล โทร 095-453-4145