Last updated: 21 พ.ย. 2567 | 186223 จำนวนผู้เข้าชม |
นำรถไปคืนก่อนบอกเลิกสัญญาที่ไม่ต้องชำระค่าส่วนต่าง
ในกรณีที่ยังไม่ได้มีการค้างค่างวดและค่าติดตามทวงถาม และได้มีการส่งมอบรถคืน เพราะผ่อนส่งไม่ไหว ในกรณีนี้ทางไฟแนนซ์อาจให้เซ็นเอกสารมอบรถคืน โดยที่ไม่ได้ระบุข้อความลงไปด้วยว่าหากไฟแนนซ์นำรถออกขายทอดตลาดได้ราคาน้อยกว่ามูลหนี้ส่วนที่ขาดอยู่ ผู้เช่าซื้อตกลงรับผิดส่วนที่ขาด หรือไม่ได้มีข้อความในลักษณะดังกล่าวในสัญญาเช่าซื้อรถ หรือ
ในกรณีที่โดนยึดรถก่อนค้างครบ 3 งวด เช่น ผู้เช่าซื้อผิดนัดค้างชำระ 2 งวด กำลังจะครบ 3 งวด หรือในกรณีที่ผู้เช่าซื้อรถได้คืนรถไปโดยไม่ค้างค่างวดและค่าติดตามทวงถาม
หากเป็นกรณีที่กล่าวมานี้ แม้ไฟแนนซ์จะได้ติดต่อมาหรือฟ้องให้ชำระค่าส่วนต่างที่ขาดทุนจากการขายทอดตลอด ผู้เช่าซื้อไม่จำเป็นจะต้องจ่ายค่าส่วนต่างใดๆทั้งสิ้น เนื่องจากผู้เช่าซื้อได้นำรถยนต์ที่เช่าซื้อไปส่งมอบคืนให้แก่ไฟแนนซ์ในขณะที่ยังไม่ได้ตกเป็นผู้ผิดสัญญาและไฟแนนซ์ยินยอมรับคืน หรือไฟแนนซ์มายึดรถไปก่อนกำหนดค้างครบ 3 งวด เมื่อสัญญาเช่าซื้อเลิกกัน ก็ไม่ต้องจ่ายค่าส่วนต่าง หากไฟแนนซ์นำรถออกขายได้ราคาน้อยกว่ามูลหนี้ส่วนที่ขาดอยู่ ก็ไม่จำเป็นต้องชำระ ดังนั้นถือว่าต่างฝ่ายต่างสมัครใจเลิกสัญญาทั้งสองฝ่าย จึงไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าส่วนต่างใดๆทั้งสิน แต่ตามที่กล่าวมานั้นเป็นหลักการตามกฎหมายที่จะไม่ต้องเสียค่าส่วนต่าง แต่เมื่อไฟแนนซ์มีการฟ้องเรียกค่าส่วนต่างมา ก็จำเป็นที่จะต้องให้ทนายไปต่อสู้คดีในประเด็นดังกล่าว และการจะแพ้ชนะของคดีก็ขึ้นอยู่กับการเบิกความสู้คดีประกอบกับพยานหลักฐานเพื่อให้เป็นไปตามหลักการดังกล่าวด้วย เพราะบางกรณีเป็นไปตามหลักการ แต่ไม่มีพยานหลักฐานสนันสนุนหรือทำหลักฐานหายก็แพ้คดีได้ และยังมีปัจจัยอื่นๆอีก
เมื่อโดนฟ้องศาลเรียกค่าส่วนต่างในกรณีที่ผู้เช่าซื้อเป็นฝ่ายยกเลิกสัญญาเองหรือถูกยึดรถก่อนมีการผิดนัดครบ 3 งวด
1. ผู้เช่าซื้อจะต้องรีบติดต่อทนายความ ให้เขียนคำให้การสู้คดีและว่าความเพื่อไม่ต้องชำระค่าส่วนต่าง
2. หากไม่เขียนคำให้การสู้คดี ศาลจะให้ไกล่เกลี่ยกันระหว่างผู้เช่าซื้อกับไฟแนนซ์ ว่าจะตกลงชำระกันแบบไหน ถ้าตกลงกันได้ก็ต้องทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันไว้ ผู้เช่าซื้อก็ต้องชำระตามที่ได้ทำสัญญากันไว้
3. ส่วนหากตกลงกันไม่ได้หรือไม่ได้มีการเขียนคำให้การสู้คดี ศาลจะพิพากษาตามที่ไฟแนนซ์ร้องขอ ผู้เช่าซื้อจะต้องชำระเงินตามที่ศาลพิพากษา หากไม่ชำระก็ต้องดำเนินตามกฎหมายบังคับคดีต่อไป
แต่เนื่องจากการที่ท่านจะคืนรถแม้จะยังไม่ได้ค้างค่างวดและค่าติดตามทวงถามก็ตาม ในขั้นตอนการคืนรถ ไฟแนนซ์ก็มักจะมีเอกสารหรือข้อสัญญาที่ระบุว่า หากมีการคืนก็ต้องชดใช้ค่าส่วนต่างจากการขายแล้วขาดทุน ด้วยและหากคุณต้องการทราบขั้นตอนการคืนรถแบบไม่เสียค่าส่วนต่างที่ทนายไม่ได้เปิดเผยโดยทั่วไป เพื่อให้การคืนรถของคุณก่อนที่จะค้างชำระค่างวด เป็นไปอย่างรัดกุมเป็นไปตามหลักของกฎหมาย มีน้ำหนักในการสู้คดีมากยิ่งขึ้น มีหลักฐานในการสู้คดีอย่างชัดเจนเพื่อประหยัดค่าทนายความ และมีโอกาสสูงที่จะไม่ต้องจ่ายค่าส่วนต่าง แม้ตอนคืนรถไฟแนนซ์จะมีเอกสารให้เซ็นว่ายินยอมชดใช้ค่าส่วนต่างก็ตาม หากคุณต้องการจะทราบขั้นตอนที่ทำเองได้ ไม่ต้องไปจ้างคนอื่นให้ทำเรื่องคืนรถให้ซึ่งมีค่าใช้จ่ายหลักพันถึงหลักหมื่น สามารถอินบ็อกซ์มาได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก "ทนายนิธิพล ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย" หรือเบอร์ 095-453-4145 (มีค่าใช้จ่ายในการปรึกษา แต่ค่าปรึกษาเพียงหลักร้อยเท่านั้น)
คำพิพากษานี้เป็นกรณีตัวอย่างที่สำนักงานของเราได้สู้คดีให้แก่ลูกความ ผลก็คือศาลพิพากษายกฟ้องโจทก์ซึ่งเป็นบริษัทไฟแนนซ์ โดยโจทก์ฟ้องมาให้จำเลยชำระเงินทั้งสิ้น 256,633.66 บาท เมื่อศาลพิพากษายกฟ้องลูกความของเราก็ไม่ต้องจ่ายค่าส่วนต่างใดๆให้แก่โจทก์ซึ่งเป็นบริษัทไฟแนนซ์อีกครับ
ทนายนิธิพล ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย
รับว่าความทุกคดี ทั่วราชอาณาจักรไทย
Facebook Fan Page :: ทนายนิธิพล ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย
เปิดทำการ :: วันจันทร์ – วันเสาร์
เวลาทำการ :: 09:00 - 18:00 น.
เบอร์ติดต่อ (โทรเวลาทำการ) :: 095-453-4145
19 ก.ค. 2566