การร้องขอตั้งผู้จัดการมรดก จะต้องทำยังไงบ้าง - ทนายนิธิพล

67344 จำนวนผู้เข้าชม  | 

การร้องขอตั้งผู้จัดการมรดก จะต้องทำยังไงบ้าง  - ทนายนิธิพล

              การร้องขอตั้งผู้จัดการมรดก จะต้องทำยังไงบ้าง       

              สามีเสียชีวิต มีลูก 1 คน และแม่สามี ที่ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่ง สามีมีบ้าน  รถ และเงินธนาคารจำนวนหนึ่ง ซึ่งไปติดต่อกรมที่ดินแล้ว ไม่สามารถทำการเปลี่ยนชื่อในโฉนดได้ ให้ไปร้องต่อศาล  ดิฉันต้องทำยังไงดีค่ะ 

              ทนายความตอบ
             เมื่อบุคคลที่ถึงแก่ความตาย มรดกของผู้ตายนั้นต้องตกทอดแก่ทายาท ถ้าไม่ได้มีการทำพินัยกรรมระบุไว้ว่าใครเป็นผู้รับมรดก ก็ต้องตกทอดแก่ทายาทตามสิทธิของกฎหมาย ซึ่งทายาทโดยที่มีสิทธิรับมรดก คือ 1. ผู้สืบสันดาน  2.บิดามารดา 3. พี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน  4. พี่น้องร่วมบิดาหรือมารดาเดียวกัน . 5 ปู่ ย่า ตา ยาย 6. ลุงป้า น้า อา  และ ภรรยาที่ชอบด้วยกฎหมายก็ถือเป็นทายาทโดยธรรมด้วย จากกรณีที่ท่านสอบถามมาดังกล่าวข้างต้น ผู้มีสิทธิรับมรดกคือ  ภรรยาที่ชอบด้วยกฎหมาย มารดาของผู้ตาย และบุตร ซึ่งทั้งสามคนมีส่วนในการรับมรดกเท่ากัน ดังนั้นสามารถให้คนใดคนหนึ่งร้องขอคำสั่งศาลให้เป็นผู้จัดการมรดกในการแบ่งทรัพย์สินได้เลย  

            ในการร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกนั้น ต้องดำเนินการดังนี้

            1. ต้องดูว่าผู้ตายมีทรัพย์สินอะไรบ้างที่จะต้องตกเป็นมรดก ทรัพย์สินทุกชนิดของผู้ตายตลอดทั้งสิทธิ หน้าที่ และความรับผิดต่างๆ ที่ไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้จะต้องมีการร้องขอจัดตั้งผู้จัดการมรดกเสียก่อน

            2. ต้องดูว่าใครเป็นทายาทผู้มีสิทธิในการรับมรดกครั้งนี้ และจะแต่งตั้งใครเป็นผู้จัดการมรดก  ผู้ที่จะเป็นผู้จัดการมรดกได้ ต้องเป็นบุคคลที่ทายาทด้วยกันยินยอม และ มีอายุ 20 ปี บริบูรณ์ ไม่เป็นบุคคลวิกลจริต ไม่เป็นบุคคลไร้ความสามารถหรือบุคคลเสมือนไร้ความสามารถ และไม่เป็นบุคคลล้มละลาย

            3. ในการร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก ผู้ที่จะยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อขอเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย ต้องเตรียมอะไรบ้าง

                -  บัตรประจำตัวประชาชน , ทะเบียนบ้าน ทั้งของผู้ยื่นร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก และขอทายาทที่มีสิทธิรับมรดก และของผู้ตาย

                -  ใบมรณะบัตรของผู้ตาย

                -  ทะเบียนสมรสของผู้ตาย หรือใบทะเบียนสมรสของบิดามารดาของผู้ตาย หรือทะเบียนหย่า

                -  หนังสือรับความยินยอมจากทายาท

                -  เอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ ในทรัพย์สิน เช่น โฉนดที่ดิน สมุดบัญชีธนาคาร ทะเบียนร

                -  แผนผังบัญชีเครือญาติ

                -  สูติบัตรของทายาท ( ในกรณีที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ )

                -  ใบสำคัญการเปลี่ยนชื่อตัว  ชื่อสกุล

            4. ในการร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก ในกรณีที่มีความซับซ้อน เช่น มีทรัพย์มรดกจำนวนมาก มีทายาทหลายคน เอกสารหลักฐานจำนวนมาก ยุ่งยางในการเรียบเรียงเอกสาร ทายาทบางคนไม่ยินยอมให้เป็นผู้จัดการมรดกและอาจมาร้องคัดค้านการขอเป็นผู้จัดการมรดกได้ ที่จะต้องมีการสืบพยานหลักฐานโต้แย้งกันว่าใครจะเป็นผู้จัดการมรดก ซึ่งก็ควรปรึกษากับทนายความและให้ทนายความเป็นผู้ยื่นคำร้องต่อศาลให้ และสำนักงานทนายความของเรามีความชำนาญในการร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกต่อศาลรวมถึงการจัดการมรดกอย่างเท่าเทียม ท่านสามารถปรึกษาสำนักงานกฎหมายของเราได้ที่ช่องทางการติดต่อด้านล่างนี้


            5. ขั้นตอนดำเนินคดีในชั้นศาล ศาลจะนัดวันไต่สวนคำร้องท่าน เพื่อที่จะได้ทราบว่าท่านสมควรที่จะเป็นผู้จัดการมรดกหรือไม่ ต่อมาถ้าไต่ส่วนคำร้องเสร็จสิ้นแล้ว ก็รอฟังคำพิพากษาได้เลย และถ้าหาก มีผู้คัดค้านในการร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของท่านจะต้องมีการสู้คดีกันว่าบุคคลใด เหมาะสมที่จะเป็นผู้จัดการมรดก หรือ ศาลสามารถตัดสินให้เป็นผู้จัดการมรดกร่วมกันได้ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล 

 


             ทนายนิธิพล ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย

สำนักงานกฎหมาย สำนักงานทนายความ

แฟนเพจ FB : ทนายนิธิพล ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย

โทร : 095-453-4145 เวลาติดต่อจันทร์-เสาร์ 10.00น – 18.00น
 

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้